วันที่ 2009-09-08 10:28:43
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
กรอ. เผยโรงไฟฟ้า กฟผ. 3 โครงการต้องสะดุดรอใบอนุญาต เหตุบัญชีกิจการร้ายแรง 8 ประเภทยังไม่เกิด เอกชนจี้ ชาญชัย รมว.อุตสาหกรรม เร่งออกประกาศ หวั่นกระทบการลงทุนหลายอุตสาหกรรม
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่ผ่านการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) รอใบอนุญาตก่อสร้างและดำเนินการจากกรมโรงงาน 13 โครงการ มูลค่าการลงทุน 59,501 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกใบอนุญาตโรงงานไปแล้ว 10 โครงการ โดยเหลือโครงการที่ต้องการรอความชัดเจนของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่อาจก่อผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ 3 โครงการ
"ทั้ง 3 โครงการที่รอการอนุมัติเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมีกำลังการผลิตมากกว่า 500 เมกะวัตต์และมีความคาบเกี่ยวกับบัญชีกิจการทั้ง 8 ประเภทที่เข้าข่ายรุนแรง ตามมาตรา 67 ดังนั้น จึงต้องรอให้กระทรวงอุตสาหกรรมประกาศบัญชีดังกล่าวเสียก่อน ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะส่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกกูเลเตอร์) ออกใบอนุญาต" นายวิฑูรย์ กล่าว
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมควรเร่งออกประกาศดังกล่าว เพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยถ้ายังไม่มีการออกประกาศจะส่งผลกระทบกับการลงทุนหลายอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
ซึ่งเท่าที่หารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่านายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม จะลงนามในประกาศได้ภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้มีอุตสาหกรรมในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง รอลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่น และเหล็ก เป็นต้น และอุตสาหกรรมที่รอลงทุนในเขตนอกนิคมอุตสาหกรรมอีก 50,000 ล้านบาท
"ประกาศดังกล่าวมีความสำคัญเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการลงทุน หากไม่ออกก็จะมีปัญหาตามมา เนื่องจากการลงทุนบางอย่างเกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ดังนั้น ควรเร่งดำเนินการก่อนจะเสียโอกาสในการลงทุน ส่วนผลการศึกษาผลกระทบทางสุขภาพ (เอชไอเอ) นั้น ทาง ส.อ.ท.คาดว่าจะรวมไว้ในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงสาธารณสุขเห็นพ้องกันแล้วที่จะทำรวมกันไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี" นายพยุงศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดการลงนามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ต้องเลื่อนออกไปก่อน หลังจากคณะทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมส่งเรื่องให้นายชาญชัย ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา
แต่นายชาญชัยขอดูรายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง และระบุว่าจะลงนามให้ได้ภายในวันที่ 31 ส.ค. แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากนายชาญชัย ส่งไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยดูถ้อยคำในประกาศดังกล่าวว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายหรือไม่
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์
. (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
กรอ. เผยโรงไฟฟ้า กฟผ. 3 โครงการต้องสะดุดรอใบอนุญาต เหตุบัญชีกิจการร้ายแรง 8 ประเภทยังไม่เกิด เอกชนจี้ ชาญชัย รมว.อุตสาหกรรม เร่งออกประกาศ หวั่นกระทบการลงทุนหลายอุตสาหกรรม
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่ผ่านการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) รอใบอนุญาตก่อสร้างและดำเนินการจากกรมโรงงาน 13 โครงการ มูลค่าการลงทุน 59,501 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกใบอนุญาตโรงงานไปแล้ว 10 โครงการ โดยเหลือโครงการที่ต้องการรอความชัดเจนของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่อาจก่อผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ 3 โครงการ
"ทั้ง 3 โครงการที่รอการอนุมัติเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมีกำลังการผลิตมากกว่า 500 เมกะวัตต์และมีความคาบเกี่ยวกับบัญชีกิจการทั้ง 8 ประเภทที่เข้าข่ายรุนแรง ตามมาตรา 67 ดังนั้น จึงต้องรอให้กระทรวงอุตสาหกรรมประกาศบัญชีดังกล่าวเสียก่อน ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะส่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกกูเลเตอร์) ออกใบอนุญาต" นายวิฑูรย์ กล่าว
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมควรเร่งออกประกาศดังกล่าว เพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยถ้ายังไม่มีการออกประกาศจะส่งผลกระทบกับการลงทุนหลายอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
ซึ่งเท่าที่หารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่านายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม จะลงนามในประกาศได้ภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้มีอุตสาหกรรมในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง รอลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่น และเหล็ก เป็นต้น และอุตสาหกรรมที่รอลงทุนในเขตนอกนิคมอุตสาหกรรมอีก 50,000 ล้านบาท
"ประกาศดังกล่าวมีความสำคัญเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการลงทุน หากไม่ออกก็จะมีปัญหาตามมา เนื่องจากการลงทุนบางอย่างเกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ดังนั้น ควรเร่งดำเนินการก่อนจะเสียโอกาสในการลงทุน ส่วนผลการศึกษาผลกระทบทางสุขภาพ (เอชไอเอ) นั้น ทาง ส.อ.ท.คาดว่าจะรวมไว้ในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงสาธารณสุขเห็นพ้องกันแล้วที่จะทำรวมกันไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี" นายพยุงศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดการลงนามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ต้องเลื่อนออกไปก่อน หลังจากคณะทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมส่งเรื่องให้นายชาญชัย ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา
แต่นายชาญชัยขอดูรายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง และระบุว่าจะลงนามให้ได้ภายในวันที่ 31 ส.ค. แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากนายชาญชัย ส่งไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยดูถ้อยคำในประกาศดังกล่าวว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายหรือไม่
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์
. (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)