มาบตาพุด 3 แสนล้านหาวเรออีก! - ข่าวอุตสาหกรรม [Industrial News]

Wednesday, September 9, 2009 at 9:33 PM

วันที่ 2 กันยายน 2552
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)

มาบตาพุด 3 แสนล้านหาวเรออีก!


ชาญชัย" ยังไม่ลงนามร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมคุม 8 กิจการที่เข้าข่ายสร้างผลกระทบชุมชนและสิ่งแวดล้อม ส่งกฤษฎีกาตรวจทานอีกครั้งหวั่นถูกเอ็นจีโอหาช่องโหว่ฟ้อง ด้านมาบตาพุดยังรอ กนอ.ออกใบอนุญาตอีก 21 โครงการ กว่า 2.7 แสนล้าน..

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมว่า นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม ตัดสินใจส่งร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการพิจารณาอนุมัติโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่อาจก่อผลกระทบต่อชุมชน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ที่จัดทำขึ้น แบ่งเป็น 8 กลุ่มกิจการไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตรวจทานเนื้อหารายละเอียดอีกครั้ง โดยคาดว่าจะประกาศได้ในเร็วๆนี้

การส่งให้กฤษฎีกาก็เพื่อความถูกต้องและชัดเจน เพราะไม่อยากมีปัญหากับองค์กรภาคเอกชนหรือเอ็นจีโอ ให้มาฟ้องกันภายหลังได้อีก หากกฤษฎีกาตรวจทานแล้ว คาดว่า รมว.อุตสาหกรรมก็จะลงนามได้ทันที ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวก็เพื่อให้สอดคล้อง กับมาตรา 67 ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2550

สำหรับ 8 กิจการที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดคือ 1.โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2.เหมืองแร่ ใต้ดิน 3.เหมืองแร่แมงกานีส สังกะสี และตะกั่ว 4.โรงถลุงเหล็ก 5.โรงงานปิโตรเคมี 6.นิคมอุตสาหกรรมที่มีโรงถลุงเหล็กและโรงงานปิโตรเคมี 7.โรงไฟฟ้า 8.โรงงานกำจัดของเสียและกากอุตสาหกรรม ซึ่งประกาศดังกล่าวจะมีผลต่อกิจการที่ขอตั้งโรงงานใหม่เป็นหลัก

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ). กล่าวว่า ขณะนี้ กรอ.ได้พิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการและขยายโรงงานแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้าชะลอออกให้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดหลักรัฐธรรมนูญตามมาตรา 67 จนกฤษฎีกาตีความว่าสามารถอนุญาตได้ ซึ่งมีโครงการทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่า 5.95 หมื่นล้านบาท กรอ.อนุญาต 4 โครงการ อีก 8 โครงการเป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจการไฟฟ้า กรอ.ได้พิจารณาว่าสมควรอนุญาตแล้ว ส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า(เรกูเลเตอร์) พิจารณาต่อ ส่วนอีก 1 โครงการเป็นเครือ ปตท. อยู่ระหว่างพิจารณา คาดว่าจะอนุญาตได้เร็วๆนี้

สำหรับโครงการลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ที่ต้องรอใบอนุญาตประกอบกิจการจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ จ.ระยอง มีทั้งสิ้น 21 ราย รวมมูลค่า 270,599 ล้านบาท เป็นโครงการลงทุนใหม่ ประกอบด้วย 1.บริษัทเอชเอ็มซี โปลิเมอล์ จำกัด ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก มูลค่า 10,600 ล้านบาท 2.บริษัทพีทีที โพลี-เอทิลีน จำกัด ที่นิคมฯผาแดง มูลค่า 52,000 ล้านบาท 3.บริษัทไทยเอทานอล-เอมีน จำกัด ที่นิคมฯเหมราชตะวันออก มูลค่า 1,800 ล้านบาท 4.บริษัทมาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ที่นิคมฯอาร์ไอแอล มูลค่า 20,000 ล้านบาท

5.บริษัทเอ็มทีพีเอฟพีพี จำกัด ที่นิคมฯเอเชีย มูลค่า 18,620 ล้านบาท 6.บริษัทไทยโพลีโพรไพลีน จำกัด ที่นิคมฯอาร์ไอแอล มูลค่า 16,000 ล้านบาท 7.บริษัทพีทีทีฟีนอล จำกัด ที่นิคมฯเหมราช มูลค่า 85,000 ล้านบาท 8.บริษัทพีทีทีอาซาฮีเคมิคอลส์ จำกัด มูลค่า 17,424 ล้านบาท 9.บริษัทเก็ตโค่วัน จำกัด ที่นิคมฯมาบตาพุด มูลค่า 38,268 ล้านบาท 10.บริษัทสยามเลเทกซ์สังเคราะห์ จำกัด ที่นิคมฯเอเชีย มูลค่า 10,500 ล้านบาท 11.บริษัทเอ็มทีพี เอชพีเจวีประเทศไทย จำกัด มูลค่า 300 ล้านบาท 12.บริษัทโซลเวย์ เพอรอกซีไทย จำกัด ที่นิคมฯเอเชีย มูลค่า 170 ล้านบาท

สำหรับโครงการที่ขอขยายลงทุนเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.บริษัทสยามแผ่นเหล็กวิลาส จำกัด ที่นิคมฯมาบตาพุด มูลค่า 1,800 ล้านบาท 2.บริษัทสยามโพลีเอทีลีน จำกัด มูลค่า 9,590 ล้านบาท 3.บริษัทบางกอกโพลีเอทิลีนจำกัด มูลค่า 5,887 ล้านบาท 4.บริษัทสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง จำกัด 5. บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด ที่นิคมฯไอแอล มูลค่า 1,330 ล้านบาท 6.บริษัท ปตท.เคมีคอลส์ จำกัด มูลค่า 7,780 ล้านบาท 7.บริษัทโกลว์ พลังงาน จำกัด มูลค่า 17,464 ล้านบาท 8. บริษัทอติตยา เบอร์ล่าเคมีคัลส์ จำกัด มูลค่า 273 ล้านบาท และ 9.บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด ที่นิคมฯมาบตาพุด มูลค่า 8,855 ล้านบาท.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 1 ก.ย.52






(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
Home | Site Map | RSS Subscribe | Go to top