วันที่ 2009-11-16 09:38:46
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานออกอาการปลื้มจัดงาน "พลังงานก้าวไกล...ประเทศไทยก้าวหน้า" เพียงวันแรกยอดคนเข้าชมงานพุ่งกว่าห้าพันคน ชี้ประชาชนตื่นตัวเรื่องพลังงานมากขึ้น
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
.
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน จัดงาน “พลังงานก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า” (Thailand Energy Day 2009) ระหว่างวันที่ 13 -15 พฤศจิกายน 2552 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานในระดับครัวเรือน
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า งาน“พลังงานก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า” หรือ Thailand Energy Day 2009 ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมี นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธารเปิดงาน
ซึ่งงานดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก โดยมียอดผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน ทำให้ห้องเพลนารี่ ฮอลล์ ดูเล็กลงไปถนัดตา ทั้งนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องพลังงานมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนเองโดยตรงเพราะสามารถนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า จุดมุ่งหมายสำคัญของนี้ จะได้เน้นให้ประชาชนที่เข้าชมงาน ได้เข้าใจถึงการประหยัดพลังงานภายในบ้าน ซึ่งการใช้พลังงานในบ้านที่อยู่อาศัย มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 14.7% ของการใช้พลังงานทั้งประเทศ จึงมีความสำคัญและจะมีส่วนช่วยประเทศประหยัดพลังงาน
การอนุรักษ์พลังงานของประเทศ จึงเริ่มได้ง่ายๆ โดยปรับพฤติกรรมตั้งแต่ที่บ้าน เช่น การรีดผ้าคราวละมากๆ การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้ การใช้กระติกต้มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ เป็นต้น
นอกจากนี้ยั งมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) จัดทำมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในหลากหลายรูปแบบ เช่น การติดฉลากอุปกรณ์ประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จะยกเว้นภาษีเงินได้จากการซื้อวัสดุและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเบอร์ 5 การติดฉลากอาคารประหยัดพลังงาน การจัดประกวดบ้านจัดสรรอนุรักษ์พลังงาน การเผยแพร่แบบบ้านอยู่สบายประหยัด
พลังงาน รวมทั้งส่งเสริมการปรับเปลี่ยนและการถ่ายทอดพฤติกรรม เพื่อให้การประหยัดพลังงาน หยั่งรากลึกอยู่ในจิดสำนึกของคนไทยทุกคน
นอกจาก การอนุรักษ์พลังงานในบ้านแล้ว กระทรวงพลังงาน ยังมีนโยบายเปลี่ยนบ้านให้เป็นแหล่งผลิตพลังงานในอนาคต โดยการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เช่นระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับที่อยู่อาศัย กังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบผลิตก๊าซชีวภาพและเทคโนโลยีผลิตพลังงานสำหรับครัวเรือน ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในบ้าน มีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานของประเทศ
ในการจัดงานครั้งนี้ได้จัดให้บ้านพลังงานเป็นไฮท์ไลท์ของงาน โดยภายในบ้านจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ประหยัดพลังงานติดฉลากประสิทธิภาพสูง เช่น เตาแก๊สหุงต้ม เครื่องทำน้ำอุ่น หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ตู้เย็น
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานที่ผลิตด้วยฝีมือคนไทยอย่างเช่น เตามหาเศรษฐี ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ เตาผลิตถ่านแบบถัง 200 ลิตร ที่แสดงถึงการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเริ่มได้ตั้งแต่ที่บ้าน และเทคโนโลยีการผลิตพลังงานทดแทน
เพื่อกระตุ้นให้ทุกครัวเรือนนำเทคโนโลยีที่จัดแสดงในงานนี้ไปรับเปลี่ยนบ้านของตนเองให้เป็นบ้านพลังงานในรูปแบบใหม่ พัฒนาให้บ้านของคนไทย เป็นบ้านพลังงานสีเขียว หรือ Green Home นำไปสู่การเป็นเมืองสีเขียว หรือ Green City และผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นสังคมสีเขียว หรือ Green Society ในที่สุด (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานออกอาการปลื้มจัดงาน "พลังงานก้าวไกล...ประเทศไทยก้าวหน้า" เพียงวันแรกยอดคนเข้าชมงานพุ่งกว่าห้าพันคน ชี้ประชาชนตื่นตัวเรื่องพลังงานมากขึ้น
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
.
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน จัดงาน “พลังงานก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า” (Thailand Energy Day 2009) ระหว่างวันที่ 13 -15 พฤศจิกายน 2552 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานในระดับครัวเรือน
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า งาน“พลังงานก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า” หรือ Thailand Energy Day 2009 ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมี นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธารเปิดงาน
ซึ่งงานดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก โดยมียอดผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน ทำให้ห้องเพลนารี่ ฮอลล์ ดูเล็กลงไปถนัดตา ทั้งนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องพลังงานมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนเองโดยตรงเพราะสามารถนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า จุดมุ่งหมายสำคัญของนี้ จะได้เน้นให้ประชาชนที่เข้าชมงาน ได้เข้าใจถึงการประหยัดพลังงานภายในบ้าน ซึ่งการใช้พลังงานในบ้านที่อยู่อาศัย มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 14.7% ของการใช้พลังงานทั้งประเทศ จึงมีความสำคัญและจะมีส่วนช่วยประเทศประหยัดพลังงาน
การอนุรักษ์พลังงานของประเทศ จึงเริ่มได้ง่ายๆ โดยปรับพฤติกรรมตั้งแต่ที่บ้าน เช่น การรีดผ้าคราวละมากๆ การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้ การใช้กระติกต้มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ เป็นต้น
นอกจากนี้ยั งมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) จัดทำมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในหลากหลายรูปแบบ เช่น การติดฉลากอุปกรณ์ประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จะยกเว้นภาษีเงินได้จากการซื้อวัสดุและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเบอร์ 5 การติดฉลากอาคารประหยัดพลังงาน การจัดประกวดบ้านจัดสรรอนุรักษ์พลังงาน การเผยแพร่แบบบ้านอยู่สบายประหยัด
พลังงาน รวมทั้งส่งเสริมการปรับเปลี่ยนและการถ่ายทอดพฤติกรรม เพื่อให้การประหยัดพลังงาน หยั่งรากลึกอยู่ในจิดสำนึกของคนไทยทุกคน
นอกจาก การอนุรักษ์พลังงานในบ้านแล้ว กระทรวงพลังงาน ยังมีนโยบายเปลี่ยนบ้านให้เป็นแหล่งผลิตพลังงานในอนาคต โดยการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เช่นระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับที่อยู่อาศัย กังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบผลิตก๊าซชีวภาพและเทคโนโลยีผลิตพลังงานสำหรับครัวเรือน ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในบ้าน มีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานของประเทศ
ในการจัดงานครั้งนี้ได้จัดให้บ้านพลังงานเป็นไฮท์ไลท์ของงาน โดยภายในบ้านจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ประหยัดพลังงานติดฉลากประสิทธิภาพสูง เช่น เตาแก๊สหุงต้ม เครื่องทำน้ำอุ่น หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ตู้เย็น
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานที่ผลิตด้วยฝีมือคนไทยอย่างเช่น เตามหาเศรษฐี ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ เตาผลิตถ่านแบบถัง 200 ลิตร ที่แสดงถึงการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเริ่มได้ตั้งแต่ที่บ้าน และเทคโนโลยีการผลิตพลังงานทดแทน
เพื่อกระตุ้นให้ทุกครัวเรือนนำเทคโนโลยีที่จัดแสดงในงานนี้ไปรับเปลี่ยนบ้านของตนเองให้เป็นบ้านพลังงานในรูปแบบใหม่ พัฒนาให้บ้านของคนไทย เป็นบ้านพลังงานสีเขียว หรือ Green Home นำไปสู่การเป็นเมืองสีเขียว หรือ Green City และผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นสังคมสีเขียว หรือ Green Society ในที่สุด (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
