วันที่ 2009-11-13 09:51:31
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
อภิสิทธิ์ ระบุครม.เศรษฐกิจมีมติเร่งพัฒนาและปฏิรูปรถไฟ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ 76 โครงการ ดึงอานันท์นั่งหัวโต๊ะปางปัญหามาบตาพุด คาดสัปดาห์หน้าเรียบร้อย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่า มี 2 เรื่อง คือ เรื่องการพัฒนาพัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ และแนวทางการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งครม.เศรษฐกิจมีมติแนวทางการปฏิรูปการรถไฟแห่งประเทศ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ข้อแรกจะมีการรวบรวมในเรื่องการลงทุนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในเรื่องมาตรฐาน แก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมานาน ทั้งเรื่องราง หัวรถจักร เรื่องระบบอาณัติสัญญาณรถไฟ และจะมีการลงทุนในช่วงของปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพื่อทำให้นอกจากเกิดความปลอดภัยแล้ว รถไฟควรอยู่ในฐานะที่มีความเร็ววิ่งบริการประชาชนได้ จากปัจจุบันประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ขึ้นมาเป็น 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้จะมีการลงทุนในเส้นทางใหม่ โดยเฉพาะเส้นทางที่จะเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ดูไว้คือจากบัวใหญ่ จะวิ่งไปทางจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม และในส่วนของเด่นชัย-เชียงรายซึ่งพูดกันมานานแล้ว นอกจากนี้จะมีการศึกษาเรื่องโครงการถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งจะเป็นเรื่องการลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องโครงสร้างนั้นจะให้กระทรวงคมนาคมไปหารือกับ รฟท.ทั้งฝ่ายบริหาร สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เพื่อจะให้ยอมรับการปรับหน่วยธุรกิจมาดูแล ทั้งเรื่องราง เรื่องการเดินรถ และเรื่องทรัพย์สิน พร้อมกับให้มีหน่วยงานที่สามารถบริหารให้แอร์พอร์ตลิงค์วิ่งได้หรือเปิดได้โดยเร็วที่สุด
ส่วนความคืบหน้าในการตั้งฝ่ายบริหารเข้าตรวจสอบการละทิ้งผู้โดยสารสถานีละแมร์ จังหวัดชุมพร นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรายงานว่า ได้ตั้งกรรมการระดับกระทรวงไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.เศรษฐกิจยังมีการหารือเรื่องแนวทางการแก้ปัญหามาบตาพุด ซึ่งคาดว่าคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบการดำเนินการโครงการ 76 โครงการ และเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหามาบตาพุด น่าจะทำได้ต้นสัปดาห์หน้า ในส่วนรัฐบาลจะให้มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ เป็นกรรมการ
ส่วนกรรมการฝ่ายอื่นกำลังรวบรวมชื่อ ส่วนอำนาจหน้าที่ต่างๆ ตนได้พูดคุยกับนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว คิดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะเรียบร้อย โดยใน 30 วันหลังจากนั้นกรรมการชุดดังกล่าวจะช่วยดูทั้ง 76 โครงการเพื่อแยกแยะ และ 60 วัน จะดูเรื่องเยียวยาและการจัดทำแผนควบคุมมลพิษ และ 120 วัน จะทบทวนดูเรื่องการเดินหน้ากฎระเบียบและกฎหมายต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าปัญหาต่างๆ จะไม่ออกไปนอกถนนอีกแล้ว โดยจะเข้าสู่กรรมการชุดดังกล่าวแทนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่าเป็นอย่างนั้น ตนคิดว่าเป็นการตอบสนองความคิดประชาชนเองด้วยว่าควรมีคณะกรรมการหรือกลไกที่ระดมทุกฝ่ายเข้ามา ภาคธุรกิจเองก็ดูจะให้ความร่วมมือและขานรับแล้ว ฉะนั้นน่าจะเป็นแนวทางที่ดี
ที่มา : เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
อภิสิทธิ์ ระบุครม.เศรษฐกิจมีมติเร่งพัฒนาและปฏิรูปรถไฟ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ 76 โครงการ ดึงอานันท์นั่งหัวโต๊ะปางปัญหามาบตาพุด คาดสัปดาห์หน้าเรียบร้อย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่า มี 2 เรื่อง คือ เรื่องการพัฒนาพัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ และแนวทางการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งครม.เศรษฐกิจมีมติแนวทางการปฏิรูปการรถไฟแห่งประเทศ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ข้อแรกจะมีการรวบรวมในเรื่องการลงทุนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในเรื่องมาตรฐาน แก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมานาน ทั้งเรื่องราง หัวรถจักร เรื่องระบบอาณัติสัญญาณรถไฟ และจะมีการลงทุนในช่วงของปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพื่อทำให้นอกจากเกิดความปลอดภัยแล้ว รถไฟควรอยู่ในฐานะที่มีความเร็ววิ่งบริการประชาชนได้ จากปัจจุบันประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ขึ้นมาเป็น 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้จะมีการลงทุนในเส้นทางใหม่ โดยเฉพาะเส้นทางที่จะเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ดูไว้คือจากบัวใหญ่ จะวิ่งไปทางจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม และในส่วนของเด่นชัย-เชียงรายซึ่งพูดกันมานานแล้ว นอกจากนี้จะมีการศึกษาเรื่องโครงการถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งจะเป็นเรื่องการลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องโครงสร้างนั้นจะให้กระทรวงคมนาคมไปหารือกับ รฟท.ทั้งฝ่ายบริหาร สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เพื่อจะให้ยอมรับการปรับหน่วยธุรกิจมาดูแล ทั้งเรื่องราง เรื่องการเดินรถ และเรื่องทรัพย์สิน พร้อมกับให้มีหน่วยงานที่สามารถบริหารให้แอร์พอร์ตลิงค์วิ่งได้หรือเปิดได้โดยเร็วที่สุด
ส่วนความคืบหน้าในการตั้งฝ่ายบริหารเข้าตรวจสอบการละทิ้งผู้โดยสารสถานีละแมร์ จังหวัดชุมพร นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรายงานว่า ได้ตั้งกรรมการระดับกระทรวงไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.เศรษฐกิจยังมีการหารือเรื่องแนวทางการแก้ปัญหามาบตาพุด ซึ่งคาดว่าคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบการดำเนินการโครงการ 76 โครงการ และเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหามาบตาพุด น่าจะทำได้ต้นสัปดาห์หน้า ในส่วนรัฐบาลจะให้มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ เป็นกรรมการ
ส่วนกรรมการฝ่ายอื่นกำลังรวบรวมชื่อ ส่วนอำนาจหน้าที่ต่างๆ ตนได้พูดคุยกับนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว คิดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะเรียบร้อย โดยใน 30 วันหลังจากนั้นกรรมการชุดดังกล่าวจะช่วยดูทั้ง 76 โครงการเพื่อแยกแยะ และ 60 วัน จะดูเรื่องเยียวยาและการจัดทำแผนควบคุมมลพิษ และ 120 วัน จะทบทวนดูเรื่องการเดินหน้ากฎระเบียบและกฎหมายต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าปัญหาต่างๆ จะไม่ออกไปนอกถนนอีกแล้ว โดยจะเข้าสู่กรรมการชุดดังกล่าวแทนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่าเป็นอย่างนั้น ตนคิดว่าเป็นการตอบสนองความคิดประชาชนเองด้วยว่าควรมีคณะกรรมการหรือกลไกที่ระดมทุกฝ่ายเข้ามา ภาคธุรกิจเองก็ดูจะให้ความร่วมมือและขานรับแล้ว ฉะนั้นน่าจะเป็นแนวทางที่ดี
ที่มา : เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
