วันที่ 2009-11-18 09:28:19
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
รมว.อุตสาหกรรม เล็งตั้งสถาบันอิสระขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งระบบ เตรียมของบไทยเข้มแข็ง 2.5 พันล้านบาทหนุน
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังคณะอนุกรรมาธิการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เข้าพบเพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมรับเป็นเจ้าภาพ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีแผนจัดตั้งสถาบันเฉพาะทางการก่อสร้างอยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม และของบประมาณ 2.5 พันล้านบาท ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งระบบ
“จากมติ กรอ.และมติ ครม. ที่มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพในเรื่องดังกล่าว ภาคเอกชนต้องการให้มีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ขาดการดูแล และไม่ถูกมองในแง่ลบ
ซึ่งในเบื้องต้นน่าจะเป็นสถาบันอิสระในสังกัด มากกว่าองค์กรมหาชน ซึ่งจะพยายามเดินหน้าให้ได้ภายใน 3 เดือน และของบประมาณ 2.5 พันล้านบาท ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งปี 2553 มาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมก่อสร้าง และเมื่อยกร่าง พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้าง จะช่วยดูแลผู้จดทะเบียน เวลาไปต่างประเทศจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะพาไปโรดโชว์ จับคู่ลงทุนรับงานในต่างประเทศ บีโอไอ/เอสเอ็มอีแบ็งค์/EXIM BANK พร้อมในการสนับสนุนสิทธิประโยชน์และได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อได้รับงานในต่างประเทศ”นายชาญชัย กล่าว
ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ทำงานร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยอย่างใกล้ชิด และคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา พร้อมในการร่วมผลักดันกฎหมาย องค์กรอิสระ และการจัดตั้งองค์กรวิชาชีพทุกช่างฝีมือ รวมทั้งการรับมือกับข้อตกลงเปิดการค้าเสรีด้านก่อสร้างที่มีผลในเดือนมกราคม 2552
ส่วนผลการศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้างฉบับเต็ม คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา มีกำหนดจัดส่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2552 โดยมียุทธศาสตร์ประกอบด้วย (1) การพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นแหล่งสร้างงาน และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
(2) การยกระดับบุคลากรทั้งระบบให้เป็นมืออาชีพ (3) การเร่งรัดปรับปรุงระบบ และมาตรฐานการก่อสร้าง (4) การวางระบบการวิจัยและพัฒนา วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร (5) การพัฒนาสารสนเทศทุกด้าน (6) การเปิดเสรีทางการค้าเมื่อภาคเอกชนมีความพร้อมในระดับสากล
ที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
รมว.อุตสาหกรรม เล็งตั้งสถาบันอิสระขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งระบบ เตรียมของบไทยเข้มแข็ง 2.5 พันล้านบาทหนุน
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังคณะอนุกรรมาธิการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เข้าพบเพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมรับเป็นเจ้าภาพ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีแผนจัดตั้งสถาบันเฉพาะทางการก่อสร้างอยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม และของบประมาณ 2.5 พันล้านบาท ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งระบบ
“จากมติ กรอ.และมติ ครม. ที่มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพในเรื่องดังกล่าว ภาคเอกชนต้องการให้มีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ขาดการดูแล และไม่ถูกมองในแง่ลบ
ซึ่งในเบื้องต้นน่าจะเป็นสถาบันอิสระในสังกัด มากกว่าองค์กรมหาชน ซึ่งจะพยายามเดินหน้าให้ได้ภายใน 3 เดือน และของบประมาณ 2.5 พันล้านบาท ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งปี 2553 มาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมก่อสร้าง และเมื่อยกร่าง พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้าง จะช่วยดูแลผู้จดทะเบียน เวลาไปต่างประเทศจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะพาไปโรดโชว์ จับคู่ลงทุนรับงานในต่างประเทศ บีโอไอ/เอสเอ็มอีแบ็งค์/EXIM BANK พร้อมในการสนับสนุนสิทธิประโยชน์และได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อได้รับงานในต่างประเทศ”นายชาญชัย กล่าว
ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ทำงานร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยอย่างใกล้ชิด และคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา พร้อมในการร่วมผลักดันกฎหมาย องค์กรอิสระ และการจัดตั้งองค์กรวิชาชีพทุกช่างฝีมือ รวมทั้งการรับมือกับข้อตกลงเปิดการค้าเสรีด้านก่อสร้างที่มีผลในเดือนมกราคม 2552
ส่วนผลการศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้างฉบับเต็ม คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา มีกำหนดจัดส่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2552 โดยมียุทธศาสตร์ประกอบด้วย (1) การพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นแหล่งสร้างงาน และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
(2) การยกระดับบุคลากรทั้งระบบให้เป็นมืออาชีพ (3) การเร่งรัดปรับปรุงระบบ และมาตรฐานการก่อสร้าง (4) การวางระบบการวิจัยและพัฒนา วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร (5) การพัฒนาสารสนเทศทุกด้าน (6) การเปิดเสรีทางการค้าเมื่อภาคเอกชนมีความพร้อมในระดับสากล
ที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
