บีโอไอเผย 94 บริษัทเตรียมลงทุนเพิ่มปีนี้แสนล้าน - ข่าวอุตสาหกรรม [Industrial News]

Tuesday, September 15, 2009 at 2:45 PM

วันที่ 2009-09-15 14:26:55
(ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)

บีโอไอ โชว์ตัวเลข 94 บริษัท เล็งขยายลงทุนเพิ่มปีนี้กว่า 1.1 แสนล้านบาท พร้อมจ้างงานเพิ่ม
หลังวิกฤติเศรษฐกิจคลี่คลาย


นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยหลังการประชุมประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้(14ก.ย.) ว่า ที่ประชุมรับทราบผลสำรวจภาวะการจ้างงาน การผลิต และการจำหน่ายของบริษัทที่ได้รับส่งเสริมลงทุนจากบีโอไอ ที่มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกันตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป

ช่วงเดือนก.ค. ที่ผ่านมา และได้รับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวน 371 บริษัท พบว่า มีผู้ประกอบการ 94 บริษัท มีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มในไทยในปี 2552 มูลค่ารวม 1.13 แสนล้านบาท กระจายในเกือบทุกอุตสาหกรรม

กลุ่มที่มีแผนขยายการลงทุนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมเคมี กระดาษ พลาสติก มูลค่ากว่า 43,702 ล้านบาท อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มูลค่า 21,839 ล้านบาท อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 19,104 ล้านบาท และอุตสาหกรรมเกษตรกรรม มูลค่า 14,709 ล้านบาท และที่เหลืออีกกว่า 200 ราย ยังไม่มีแผนจะขยายการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง และยังไม่แน่ใจหรืออยู่ระหว่างรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

อิเล็กทรอนิกส์-เครื่องใช้ไฟฟ้าจ้างงานเพิ่ม
นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบผู้ประกอบการ 155 ราย หรือ 42% จะมีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่เริ่มมีการจ้างพนักงานชั่วคราวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. 62% ขณะที่ผู้ประกอบการ 47% หรือประมาณ 173 ราย จะคงระดับการจ้างงานไว้ในระดับเดิม จากเมื่อต้นปีที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปรับลดพนักงานไปมาก และตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เริ่มมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

"ผู้ประกอบการประเมินว่าสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มคลี่คลายไปด้วยดี ส่งผลให้ผู้ประกอบการใช้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม คาดว่าครึ่งหลังปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมจะมีอัตราการใช้กำลังผลิตเฉลี่ย 64.3% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปี 2551 และปรับตัวเพิ่ม ขึ้นเมื่อเทียบกับระดับการใช้กำลังผลิตครึ่งปีหลัง 2550 ที่มีการใช้กำลังผลิตอยู่ที่เฉลี่ย 61.5%"

นางอรรชกา กล่าวว่า ตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนนปีนี้ จะมีมูลค่า 4 แสนล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ แม้ตัวเลขขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท แต่มั่นใจว่าช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้จะมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่มูลค่าเกิน 1 พันล้านบาทอีกหลายโครงการที่จะส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะโครงการด้านพลังงานทดแทน และกิจการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ด้านการท่องเที่ยว ส่วนการส่งออกในครึ่งปีหลังคาดว่าขยายตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก 19% ทำให้ตัวเลขการส่งออกทั้งปีติดลบ 12%

อนุมัติเพิ่มสิทธิประโยชน์ 4 กิจการใหม่
นอกจากนี้ บอร์ดบีโอไอ ยังเห็นชอบมาตรการปรับปรุงประเภทกิจการที่ส่งเสริมการลงทุน โดยเพิ่มประเภทกิจการใหม่ 4 ประเภท ได้แก่ 1.กิจการผลิตวัสดุนาโน หรือผลิตผลิตภัณฑ์จากวัสดุนาโน เพื่อสนับสนุนให้ผลิตวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จัดเป็นกิจการที่ให้ความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นพิเศษ

2.กิจการผลิตเครื่องดนตรี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่อุตสาหกรรมต้นน้ำและสนับสนุนให้มีกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยให้สิทธิประโยชน์ตามเกณฑ์ที่ตั้ง 3.กิจการผลิตบ้านสำเร็จรูป หรือส่วนประกอบบ้านสำเร็จรูป เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจก่อสร้างที่ใช้เทคนิคใหม่ โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเฉพาะการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ทุกเขต

4. กิจการเขตอุตสาหกรรมบริการ เพื่อกำหนดให้เกิดพื้นที่เฉพาะเพื่อให้เกิดคลัสเตอร์ การท่องเที่ยว โดยให้ได้รับสิทธิและประโยชน์เช่นเดียวกับกิจการเขตอุตสาหกรรม โดยสิทธิประโยชน์สำหรับกิจการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกเขต ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเกณฑ์ที่ตั้งตั้งแต่ 5-8 ปี

ไฟเขียวจัดกลุ่มพัฒนาไอทีกิจการสำคัญ
ส่วนกิจการเดินเรือท่องเที่ยวหรือให้เช่าเรือท่องเที่ยวให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกเขต และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปีทุกเขต บอร์ดบีโอไอยังเห็นชอบจัดให้กิจการกลุ่มที่ก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี ให้เป็นกิจการที่มีความสำคัญ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มกิจการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นพิเศษ เช่น กิจการผลิตเครื่องจักร อุปกรณ์ และชิ้นส่วน ที่มีการออกแบบทางวิศวกรรม กิจการผลิตรถไฟหรือรถไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ หรือชิ้นส่วน ปัจจุบันยังมีจำนวนผู้ลงทุนค่อนข้างน้อย

กลุ่มที่ 2 เป็นกิจการที่มีระดับเทคโนโลยีที่ใช้ต่ำกว่ากลุ่มแรก ได้จัดให้อยู่ในกลุ่มกิจการที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ เช่น กิจการผลิตท่อเหล็กหรือ ท่อเหล็กไร้สนิม (เฉพาะการผลิตท่อเหล็ก หรือท่อเหล็กไร้สนิมชนิดไร้ตะเข็บ) กิจการผลิตเส้นใยธรรมชาติหรือเส้นใยประดิษฐ์ กิจการผลิตด้าย

นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับกิจการสนับสนุนด้านสุขอนามัย เพื่อกระตุ้นการลงทุนในการยกระดับอุตสาหกรรม โดยกำหนดให้กิจการผลิตกระดาษ HYGIENIC และกิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากกระดาษ HYGIENIC ให้ได้รับและสิทธิประโยชน์ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกเขต ส่วนสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นไปตามเขตที่ตั้ง รวมถึงต้องกำหนดเงื่อนไขที่จะต้องดำเนินการให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันเปิดดำเนินการ

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (ข่าวอุตสาหกรรม Industrial News)
Home | Site Map | RSS Subscribe | Go to top